เรื่องที่หนึ่ง ซึ่งไม่อยากจะเว้นเสียทั้งที่เคยเอ่ยถึงแล้วในวันก่อน คือ เรื่องน้ำชาล้นถ้วย; คือว่าอาจารย์แห่งนิกายเซ็น ชื่อ น่ำอิน เป็นผู้มีชื่อเสียงทั่วประเทศ และโปรเพสเซอร์คนหนึ่ง เป็นโปรเฟสเซอร์ที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศไปหาอาจารย์น่ำอิน เพื่อขอศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างเซ็น ในการต้อนรับ ท่านอาจารย์น่ำอินได้รินน้ำชาลงในถ้วย รินจนล้นแล้วล้นอีก; โปรเฟสเซอร์มองดูด้วยความฉงน ทนดูไม่ได้ก้อพูดโพล่งออกไปว่า "ท่านจะใส่มันลงไปได้ยังไร" ประโยคนี้มันก้อแสดงว่าโมโห ท่านอาจารย์น่ำอินก้อตอบว่า " ถึงท่านก้อเหมือนกันอาตมาจะใส่อะไรลงไปได้อย่างไร เพราะท่านเต็มอยู่ด้วย opinions และ speculations ของท่านเอง"; คือว่าเต็มไปด้วยความคิดความเห็นตามความยึดมั่นถือมั่นของท่านเอง และมีวิธีคิดนึกคำนวณตามแบบของท่านเอง สองอย่างนี้แหล่ะมันทำให้เข้าใจพุทธศาสนาอย่าง เซ็น ไม่ได้ เรียกว่า ถ้วยน้ำชามันล้น
ท่านครูบาอาจารย์ทั้งหลาย จะเตือนสติเด็กของเราให้รู้สึกนึกคิดเรื่องอะไรล้น อะไรไม่ล้น ได้อย่างไร ขอให้ช่วยกันหาหนทาง ในครั้งโบราณ ในอรรถกถาได้เคยกระแหนะกระแหนถึงพวกพราหมณ์ที่เป็นทิศาปาโมกข์ ต้องเอาเหล็กมาตีเป็นเข็มกลัด คาดท้องไว้เนื่องค้วยกลัวท้องจะแตก เพราะวิชาล้น; นี้จะเป็นเรื่องที่มีความหมายอย่างไรก้อลองคิดดู พวกเราอาจล้น หรืออัดอยู่ด้วยวิชาทำนองนั้น จนอะไรใส่ลงไปอีกไม่ได้; หรือความล้นนั้นมันออกมาอาละวาดเอาบุคคลอื่นอยู่บ่อยๆบ้างกระมัง แต่เราคิดดูก็จะเห็นได้ว่า ส่วนที่ล้นนั้นคงจะเป็นส่วนที่ใช้ไม่ได้; จะจริงหรือไม่ก็ลองคิด ส่วนใดที่เป็นส่วนที่ล้น ก็คงเป็นส่วนที่ใช้ไม่ได้ ส่วนที่ร่างกายรับเอาไว้ได้ก็คงเป็นส่วนที่มีประโยชน์; ฉะนั้นจริยธรรมแท้ๆไม่มีวันจะล้น โปรดนึกดูว่าจริยธรรมหรือธรรมะแท้ๆนั้นมีอาการล้นได้ไหม ถ้าล้นไม่ได้ก้อหมายความว่าสิ่งที่ล้นนั้น มันก็ไม่ใช่จริยธรรม ไม่ใช่ธรรมะ; ล้นออกไปเสียให้หมดก็ดีเหมือนกัน หรือถ้าจะพูดอย่างลึก เป็นธรรมะลึก ก็ว่า จิตแท้ๆไม่มีวันล้น อ้ายที่ล้นนั้นมันเป็นของปรุงแต่งจิต ไม่ใช่ตัวจิตแท้ มันล้นได้มากมาย แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังไม่รู้ว่าจิตแท้คืออะไร; อะไรควรเป็นจิตแท้ และอะไรเป็นสิ่งที่ไม่ใช่จิตแท้ คือเป็นเพียงความคิดปรุงแต่ง ซึ่งจะล้นไหลไปเรื่อย นี่แหละรีบค้นหาให้พบสิ่งที่เรียกว่าจิตจริงๆ กันเสียสักทีก็ดูเหมือนจะดี
ในที่สุดท่านจะพบตัวธรรมะอย่างสูง ที่ควรแก่นามที่จะเรียกว่าจิตเดิมแท้ ซึ่งข้อนั้นได้แก่ ภาวะแห่งความว่าง จิตที่ประกอบด้วยสภาวะแห่งความว่างจาก "ตัวกู-ของกู" นั้นแหละคือจิตแท้ ถ้าว่างแล้วมันจะเอาอะไรล้น นี่เพราะเนื่องจากไม่รู้จักว่าอะไรเป็นอะไร จึงบ่นกันแต่เรื่องล้น การศึกษาก็ถูกบ่นว่าล้น คือส่วนที่เกิน คือเกินความต้องการ ไม่ต้องเอามาใส่ใจ ไม่ต้องเอามาสนใจ เขาคิดว่าเขาไม่ต้องเกี่ยวกับศาสนาหรือธรรมะเลย เขาก็เกิดมาได้ พ่อแม่ก็มีเงินให้ เขาใช้ให้เขาเล่าเรียน เรียนเสร็จแล้วก็ทำราชการเป็นใหญ่เป็นโตได้ โดยไม่ต้องมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาเลย ฉะนั้นเขาเขี่ยศาสนา หรือธรรมะออกไปในฐานะเป็นส่วนล้น คือไม่จำเป็น นี่แหละเขาจัดส่วนล้นให้แก่ศาสนาอย่างนี้ คนชนิดนี้จะต้องอยู่ในลักษณะที่ล้นเหมือนโปรเฟสเซอร์คนนั้น ที่อาจารย์น่ำอินจะต้องรินน้ำชาใส่หน้า หรือว่ารินน้ำชาให้ดู โดยทำนองนี้ทั้งนั้น เขามีความเข้าใจผิดล้น; ความเข้าใจถูกนั้นยังไม่เต็ม; มันล้นออกมาให้เห็นเป็นรูปของมิจฉาทิฎฐิ เพราะเขาเห็นว่าเขามีอะไรๆของเขาเต็มเปี่ยมแล้ว ส่วนที่เป็นธรรมะ เป็นจริยธรรมนี่เข้าไม่จุอีกต่อไป ขอจงคิดดูให้ดีเถอะว่า นี้แหละคือมูลเหตุที่ทำให้จริยธรรมรวนเร และพังทลาย ถ้าเรามีหน้าที่ที่จะต้องผดุงส่วนนี้แล้ว จะต้องสนใจเรื่องนี้
:,มหรสพทางวิญญาณเพื่อจริยธรรม นิทานเซ็น เล่าโดย..ท่านพุทธทาสภิกขุแห่งสวนโมกขพลาราม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น