วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

น้ำชาล้นถ้วย


     เรื่องที่หนึ่ง  ซึ่งไม่อยากจะเว้นเสียทั้งที่เคยเอ่ยถึงแล้วในวันก่อน คือ เรื่องน้ำชาล้นถ้วย; คือว่าอาจารย์แห่งนิกายเซ็น  ชื่อ น่ำอิน  เป็นผู้มีชื่อเสียงทั่วประเทศ  และโปรเพสเซอร์คนหนึ่ง  เป็นโปรเฟสเซอร์ที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศไปหาอาจารย์น่ำอิน  เพื่อขอศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างเซ็น  ในการต้อนรับ  ท่านอาจารย์น่ำอินได้รินน้ำชาลงในถ้วย  รินจนล้นแล้วล้นอีก;  โปรเฟสเซอร์มองดูด้วยความฉงน  ทนดูไม่ได้ก้อพูดโพล่งออกไปว่า  "ท่านจะใส่มันลงไปได้ยังไร"  ประโยคนี้มันก้อแสดงว่าโมโห  ท่านอาจารย์น่ำอินก้อตอบว่า  "  ถึงท่านก้อเหมือนกันอาตมาจะใส่อะไรลงไปได้อย่างไร  เพราะท่านเต็มอยู่ด้วย  opinions และ speculations ของท่านเอง";  คือว่าเต็มไปด้วยความคิดความเห็นตามความยึดมั่นถือมั่นของท่านเอง  และมีวิธีคิดนึกคำนวณตามแบบของท่านเอง  สองอย่างนี้แหล่ะมันทำให้เข้าใจพุทธศาสนาอย่าง  เซ็น  ไม่ได้  เรียกว่า  ถ้วยน้ำชามันล้น
         ท่านครูบาอาจารย์ทั้งหลาย  จะเตือนสติเด็กของเราให้รู้สึกนึกคิดเรื่องอะไรล้น  อะไรไม่ล้น  ได้อย่างไร  ขอให้ช่วยกันหาหนทาง  ในครั้งโบราณ  ในอรรถกถาได้เคยกระแหนะกระแหนถึงพวกพราหมณ์ที่เป็นทิศาปาโมกข์  ต้องเอาเหล็กมาตีเป็นเข็มกลัด  คาดท้องไว้เนื่องค้วยกลัวท้องจะแตก  เพราะวิชาล้น;  นี้จะเป็นเรื่องที่มีความหมายอย่างไรก้อลองคิดดู  พวกเราอาจล้น  หรืออัดอยู่ด้วยวิชาทำนองนั้น  จนอะไรใส่ลงไปอีกไม่ได้;  หรือความล้นนั้นมันออกมาอาละวาดเอาบุคคลอื่นอยู่บ่อยๆบ้างกระมัง  แต่เราคิดดูก็จะเห็นได้ว่า  ส่วนที่ล้นนั้นคงจะเป็นส่วนที่ใช้ไม่ได้;  จะจริงหรือไม่ก็ลองคิด  ส่วนใดที่เป็นส่วนที่ล้น  ก็คงเป็นส่วนที่ใช้ไม่ได้  ส่วนที่ร่างกายรับเอาไว้ได้ก็คงเป็นส่วนที่มีประโยชน์;  ฉะนั้นจริยธรรมแท้ๆไม่มีวันจะล้น  โปรดนึกดูว่าจริยธรรมหรือธรรมะแท้ๆนั้นมีอาการล้นได้ไหม  ถ้าล้นไม่ได้ก้อหมายความว่าสิ่งที่ล้นนั้น  มันก็ไม่ใช่จริยธรรม  ไม่ใช่ธรรมะ;  ล้นออกไปเสียให้หมดก็ดีเหมือนกัน  หรือถ้าจะพูดอย่างลึก เป็นธรรมะลึก  ก็ว่า  จิตแท้ๆไม่มีวันล้น  อ้ายที่ล้นนั้นมันเป็นของปรุงแต่งจิต  ไม่ใช่ตัวจิตแท้  มันล้นได้มากมาย  แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังไม่รู้ว่าจิตแท้คืออะไร;  อะไรควรเป็นจิตแท้  และอะไรเป็นสิ่งที่ไม่ใช่จิตแท้  คือเป็นเพียงความคิดปรุงแต่ง  ซึ่งจะล้นไหลไปเรื่อย  นี่แหละรีบค้นหาให้พบสิ่งที่เรียกว่าจิตจริงๆ  กันเสียสักทีก็ดูเหมือนจะดี
                ในที่สุดท่านจะพบตัวธรรมะอย่างสูง  ที่ควรแก่นามที่จะเรียกว่าจิตเดิมแท้  ซึ่งข้อนั้นได้แก่ ภาวะแห่งความว่าง  จิตที่ประกอบด้วยสภาวะแห่งความว่างจาก  "ตัวกู-ของกู"  นั้นแหละคือจิตแท้  ถ้าว่างแล้วมันจะเอาอะไรล้น  นี่เพราะเนื่องจากไม่รู้จักว่าอะไรเป็นอะไร  จึงบ่นกันแต่เรื่องล้น  การศึกษาก็ถูกบ่นว่าล้น  คือส่วนที่เกิน  คือเกินความต้องการ  ไม่ต้องเอามาใส่ใจ  ไม่ต้องเอามาสนใจ  เขาคิดว่าเขาไม่ต้องเกี่ยวกับศาสนาหรือธรรมะเลย  เขาก็เกิดมาได้  พ่อแม่ก็มีเงินให้  เขาใช้ให้เขาเล่าเรียน  เรียนเสร็จแล้วก็ทำราชการเป็นใหญ่เป็นโตได้  โดยไม่ต้องมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาเลย  ฉะนั้นเขาเขี่ยศาสนา  หรือธรรมะออกไปในฐานะเป็นส่วนล้น  คือไม่จำเป็น  นี่แหละเขาจัดส่วนล้นให้แก่ศาสนาอย่างนี้  คนชนิดนี้จะต้องอยู่ในลักษณะที่ล้นเหมือนโปรเฟสเซอร์คนนั้น  ที่อาจารย์น่ำอินจะต้องรินน้ำชาใส่หน้า  หรือว่ารินน้ำชาให้ดู  โดยทำนองนี้ทั้งนั้น  เขามีความเข้าใจผิดล้น;  ความเข้าใจถูกนั้นยังไม่เต็ม;  มันล้นออกมาให้เห็นเป็นรูปของมิจฉาทิฎฐิ  เพราะเขาเห็นว่าเขามีอะไรๆของเขาเต็มเปี่ยมแล้ว  ส่วนที่เป็นธรรมะ  เป็นจริยธรรมนี่เข้าไม่จุอีกต่อไป  ขอจงคิดดูให้ดีเถอะว่า  นี้แหละคือมูลเหตุที่ทำให้จริยธรรมรวนเร  และพังทลาย  ถ้าเรามีหน้าที่ที่จะต้องผดุงส่วนนี้แล้ว  จะต้องสนใจเรื่องนี้

:,มหรสพทางวิญญาณเพื่อจริยธรรม  นิทานเซ็น  เล่าโดย..ท่านพุทธทาสภิกขุแห่งสวนโมกขพลาราม   
       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น